ชาวประมงพื้นบ้านรวมตัวตั้งเป็นวิสาหกิจชุมชนแปรรูปอาหาร นำกุ้งที่หาได้จากทะเลมาทำอาหารชนิดต่างๆจำหน่ายให้กับผู้บริโภค ล่าสุดทำซอสกะปิปรุงรส เพื่อนไปปรุงอาหาร สร้างรายได้เพิ่มจากผลิตภัณฑ์อื่นๆได้เดือนละเกือบหมื่นบาท

ชาวประมงพื้นบ้านรวมตัวตั้งเป็นวิสาหกิจชุมชนแปรรูปอาหาร นำกุ้งที่หาได้จากทะเลมาทำอาหารชนิดต่างๆจำหน่ายให้กับผู้บริโภค ล่าสุดทำซอสกะปิปรุงรส เพื่อนไปปรุงอาหาร สร้างรายได้เพิ่มจากผลิตภัณฑ์อื่นๆได้เดือนละเกือบหมื่นบาท

นางวรรณจุรี สุวรรณรัตน์ ประธานวิสาหกิจชุมชนแปรรูปอาหาร หมู่ที่ 6 ตำบลท่าเคย อ.ท่าฉาง จ.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ชาวบ้านในพื้นที่เดิมเป็นชาวประมงพื้นบ้านที่หากุ้งในทะเลมาทำกะปิกันอยู่แล้ว แต่อยู่ในลักษณะต่างคนต่างทำที่บ้านของตนเองไม่ได้มีการปรึกษาซึ่งกันและกันสูตรที่จะทำนั้นทำกันอย่างไร ดังนั้นจึงได้มารวมกลุ่มกัน ประมาณ 40 คนเพื่อให้ได้กะปิที่มีสูตรเดียวกันในการผลิตกะปิขัดน้ำ โยมรแรงงานจังหวัดสุราษฎร์ธานีและมหาวิทยาลัยราชภัฎสุราษฎร์ธานีภายใต้การบูรณาการของสำนักงานสภาเกษตรกรจังหวัดสุราษฎร์ธานีมาจัดอบรมและให้ความรู้ในการวิจัยกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษาเพื่อให้ได้กะปิขัดน้ำในสูตรเดียวกัน ใช้กุ้ง 10 กิโลกรัมผสมเกลือ 1 กิโลกรัม นำไปตากแดดสองครั้ง ๆแรกตากตัวกุ้งแล้วนำมาตำ จากนั้นนำมาหมักไว้ 2 คืนแล้วนำไปตากอีกครั้งหนึ่งแล้วนำมาตำให้ละเอียด จากนั้นจึงนำมาแปรรูปทำผลิตภัณฑ์ต่างๆ อาทิ กะปืท่าเคย จำนวนกิโลกรัมละ 200 บาท ขนาด 450 กรัม ราคา 100 บาท กะปิสวรรค์ คล้ายน้ำพริกผง ขายกล่องละ 35 บาท 3 กล่อง 100 บาท  น้ำพริกเผา กะปิก้อน บรรจุขนาด 3 ก้อนกล่องละ 35 บาท กะปิเคยหวาน ขวดละ 75 บาท และผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดที่กำลังได้รับความนิยมจากผู้บริโภค คือ ซอสกะปิปรุงรส บรรจุขวดขนาด 330 กรัม จำหน่ายขวดละ 120 บาท  ทำให้สมาชิกมีรายได้คนละเกือบ 1 มื่นบาทต่อเดือน แต่หากสมาชิกรายไดมาช่วยทำก็จะมีการหักเปอร์เซ็นต์ให้กับสามารถอีกส่วนหนึ่งด้วย
สาเหตุที่ทำซอสกะปิปรุงรส ขึ้นมาเนื่องจากคนโดยทั่วไปในสุราษฎร์ธานีหรือจังหวัดอื่นๆทางภาคใต้ชอบกินผัดสะตอกับกุ้ง หรือสะตอกับกุ้งใส่เคย ซึ่งเป็นอาหารยอดนิยมของคนภาคใต้ ทำให้สะดวกต่อการพกพาไปไหนและง่ายต่อการเก็บรักษา เพียงเรามีขวดเดียวก็จบในเวลาเดียวกันโดยที่ไม่ต้องไปหาเครื่องปรุงรสอื่นมาทำกุ้งผัดสะตอใส่กะปิ  ขวดหนึ่งสามารถใช้ได้หลายครั้ง หากทำกินภายในครัวเรือใช้เพียง 2 ช้อนโต๊ะจะผัดกุ้งกับสะตอได้ 1 จาน ขวดหนึ่งใช้ได้ไม่น้อยกว่า 10 ครั้ง ภายหลังจากที่ซอสกะปรุงรสออกมาได้เกือบ 1 ปี ได้รับความสนใจจากผู้บริโภคเป็นอย่างมากเนื่องจากเมื่อซื้อไปแล้วสามารถที่จะนำไปประกอบอาหารได้ทันที ซอสกะปิปรุงรส นอกจากจะนำไปเป็นส่วนผสมของ ผัดสะตอกับกุ้งแล้ว ยังสามารถที่จะนำไปผัดสะตอกับหมูสามชั้น ผักสะตอกับปลากหมึก ผักสะตอกับไก่ ได้อีกด้วย ซึ่งจะให้รสชาติไม่แตกต่างกับการผัดสะตอกับกุ้งแต่อย่างใด
ดังนั้นหากมีผู้บริโภคท่านใดสนใจสามารถติดต่อได้ที่ วรรณจุรี   สุวรรณรัตน์  ประธานวิสาหกิจชุมชนแปรรูปอาหารตำบลท่าเคย หมายเลข 087-462-2561

//////