น้ำป่าไหลหลากจากต้นน้ำเขาสก ทำชาวบ้านในพื้นที่รับน้ำริมคลองสกได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมฉับพลัน ส่วนราชการเร่งให้การช่วยเหลือ

น้ำป่าไหลหลากจากต้นน้ำเขาสก ทำชาวบ้านในพื้นที่รับน้ำริมคลองสกได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมฉับพลัน ส่วนราชการเร่งให้การช่วยเหลือ

เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 2 ก.ย.66 นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมนายสุเชาว์ ทูโมสิก นายอำเภอพนม ลงพื้นที่ตรวจสอบพื้นที่และให้การช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน

โดยสภาพน้ำบริเวณสะพานคลองสก ทางเข้าอุทยานแห่งชาติเขาสก ต.คลองศก อ.พนม จ.สุราษฎร์ธานี มีระดับน้ำปริมขอบสะพาน ซึ่งสูงกว่าระดับปกติประมาณ 4 เมตร หลังได้รับอิทธิพลลมมรสุมจากทะเลอันดามัน ทำให้ฝนตกตกหนักบนเทือกเขาสก จนปริมาณน้ำฝนจำนวนมากไหลหลากจากป่าต้นน้ำเขาสกลงสู่พื้นที่ชุมชนจำนวนมาก โดยมวลน้ำเริ่มไหลหลากเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 1 ก.ย.ที่ผ่านมา และมีแนวโน้มน้ำจากป่าไหลมาสมทบต่อเนื่อง เพราะยังมีฝนตกในพื้นที่ และในพื้นที่ป่าในระดับปานกลางถคงหนักมากต่อเนื่อง พื้นที่รับน้ำริมคลองสกควรเฝ้าระวังดูและชีวิตและทรัพย์สินของตัวเอง จากน้ำท่วมฉับพลัน

นายสุเชาว์ ทูโมสิ นายอำเภอพนม กล่าวว่า หลังจากลงสำรวจพื้นที่ พบว่า มีชาวบ้านได้รับผลกระทบแล้ว 5 หมู่บ้าน ได้แก่ หมู่ที่ 1,2,4,6,7และ8 ต.คลองศก มีชาวบ้านได้รับผลกระทบไม่ต่ำกว่า 70 ครัวเรือนได้รับความเดือนร้อนประมาณ 200 คน จากระดับน้ำที่ท่วมริมคลองศกตั้งแต่ 1-3 เมตร ส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบในการสัญจร เนื่องจากมีสะพานและถนนหลายแห่งถูกน้ำท่วมขังไม่สามารถสัญจรได้ และชาวบ้านประมาณ 20 ครัวเรือน มีน้ำเข้าท่วมบ้านเรือนสูง 1-2 เมตร ทั้งนี้ได้ให้การช่วยเหลือเบื้องต้นอย่างต่อเนื่อง โดยแจกจ่ายอาหารและน้ำดื่มแก่ครัวเรือนบางส่วน ที่น่ำท่วมบ้านเรือน พร้อมดำเนินการแจ้งให้ขนย้ายคนพิการ เด็ก ผู้สุงอายุ ใว้ในที่ปลอดภัยแล้ว และช่วยขนย้ายสิ่งของจำเป็นใว้ในที่ปลอดภัย พร้อมกำชับ กำนัน ผู้ใหญ่บ้านและ ปภ.อำเภอเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่องแล้ว

ด้านนายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราขการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ลงพื้นที่มอบถุงยังชีพให้บ้านเริอนประชาชนที่น้ำท่วม กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบมีประชาชนพื้นที่ราบลุ่มริมคลองที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งก็ได้แจ้งเตือนประชาชนอย่างต่อเนื่องให้เฝ้าระวังฝนหนัก และฝนก็ตกหนัก 2-3 วันทำให้น้ำท่วมเป็นรอบที่ 2 ในช่วงเวลา 1 เดือน คาดว่าน้ำจะลดระดับอีกใน 2-3 วัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ ซึ่งยังคงให้เจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการติดตามแบะประเมินสถานการณ์แจ้งเตือนประชาชน เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลันไปอีกระยะ จนกว่าสภาพอากาศจะกลับสู่ภาวะปกติ

สำหรับพื้นที่อำเภอพนม ไม่เกิดอุทกภัยมาแล้วประมาณ 6 ปี แต่ปีนี้มรสุมอันดามัน ทำให้ฝนหนักกว่าปกติ จนน้ำป่าไหลหลากในที่สุด ซึ่งสภาพอากาศในพื้นที่ยังคงมีเมฆฝนจำนวนมาก แสงแดดน้อย และมีฝนตกเป็นช่วงๆ แต่ลดระดับลงจาก 2 วันที่ผ่านมา เช่นเดียวกับน้ำในคลองในพื้นที่ต้นน้ำ ที่ลดระดับไปประมาณ 2 เมตร ระบายสู่ตอนล่าง พื้นที่รับน้ำยังคงต้องเฝ้าระวังน้ำที่จะไหลไปถึงต่อไป

>///////