ศคท.จว. สุราษฎร์ธานีลงพื้นที่ดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยวที่เดินทางด้วยเรือโดยสารสาธรณะ

ศคท.จว. สุราษฎร์ธานีลงพื้นที่ดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยวที่เดินทางด้วยเรือโดยสารสาธรณะ

เมื่อวันที่ 19 ก.ค.67 ท่าเทียบเรือสมุยไอร์แลนด์ (ดอนสัก) และท่าเรืออเนกประสงค์ เทศบาลตำบลดอนสัก (แหลมทวด) อ.ดอนสัก จ.สุราษฎร์ธานี  น.อ.สมภพ ศรีสุกใส หัวหน้าศูนย์ควบคุมจังหวัด (ศคท.จว. สุราษฎร์ธานี ) พร้อมเจ้าหน้าที่ประสานงานความมั่นคง ศคท.จว. สุราษฎร์ธานี ศูนย์ควบคุมความมั่นคงท่าเรือจังหวัดสุราษฎร์ธานี โดย ศรชล.ภาค 2 ลงพื้นที่ดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยวที่เดินทางด้วยเรือโดยสารสารธารณะในช่วงที่มีอากาศและคลื่นลมทะเลแปรปรวน

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ ศคท.จว.สุราษฎร์ธานี ได้ดำเนินการตรวจสอบเรือโดยสาร ช.สมุยไอร์แลนด์ 13 ขนาด 59.04 ตันกรอส ซึ่งให้บริการเส้นทางอำเภอดอนสัก ไปยังเกาะพะลวย สามารถรองรับผู้โดยสารได้สูงสุดจำนวน 99 คนต่อเที่ยว โดยตรวจสอบความพร้อมของอุปกรณ์ความปลอดภัยได้แก่ เสื้อชูชีพ พวงชูชีพ ถังดับเพลิง ว่ามีจำนวนเพียงพอและอยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน เอกสารใบอนุญาตใช้เรือ ประกาศนียบัตรผู้ควบคุมเรือและช่างยนต์เรือ กรมธรรม์ประกันภัยผู้โดยสารยังไม่ขาดอายุ และเน้นย้ำให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวต้องสวมใส่เสื้อชูชีพก่อนลงเรือและโดยสารเรือทุกครั้ง ห้ามบรรทุกผู้โดยสารเกินกว่าที่ได้รับอนุญาต ให้ติดตามข้อมูลข่าวสารสภาพอากาศ ข่าวพยากรณ์อากาศ ประกาศจากหน่วยงานต่างๆ ก่อนทำการเดินเรือ

โดยคุณวีรชัย อภิพันธ์ ผู้บริหารของบริษัทสมุยไอร์แลนด์ ผู้ประกอบการเรือโดยสารประจำทางเส้นทางดอนสัก – เกาะพะลวย ให้ข้อมูลว่า การเดินทางสู่เกาะพะลวยด้วยเรือโดยสารประจำทาง มีเฉพาะวันคู่ ออกจากฝั่งท่าเรือดอนสัก เวลา 13.00 น. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30-2 ชั่วโมง และขาออกจากท่าเรือเกาะพะลวย เวลาเช้า 7.30 น. อัตราค่าโดยสารเรือคนละ 150 บาท โดยมีเส้นทางเดินเรือจากฝั่งอำเภอดอนสัก–เกาะนกเภา–เกาะเชือก–เกาะส้ม–เกาะพะลวยเลาะตามแนวเกาะที่เรียงตัวกันเพื่อหลบคลื่นลม โดยเกาะพะลวยเป็นเกาะที่มีธรรมชาติสมบูรณ์ชาวบ้านบนเกาะยังมีวิถีชีวิตดั้งเดิม เหมาะกับนักท่องเที่ยวที่ต้องการความสงบในการพักผ่อน

จากนั้นได้เดินทางไปยังท่าเรืออเนกประสงค์ เทศบาลตำบลดอนสัก (แหลมทวด) อ.ดอนสักจ.สุราษฎร์ธานี เพื่อตรวจสอบความเรียบร้อยบริเวณท่าเรือ รวมถึงตรวจสอบความพร้อมของเรือ และอุปกรณ์ ความปลอดภัยประจำเรือที่ รับส่งผู้โดยสารดอนสัก – เกาะสมุย –เกาะพะงันของ บริษัท ลมพระยา ชื่อเรือทองสลา ขนาด 255 ตันกรอส รองรับผู้โดยสารได้ 400 คน ทั้งนี้ได้เน้นย้ำผู้ประกอบการให้ติดตามสภาพอากาศ และ ประชาสัมพันธ์ให้ผู้โดยสารเห็นถึงความสำคัญของการสวมใส่ชูชีพขณะ อยู่ในเรือโดยสาร

ทั้งนี้เป็นไปตามนโยบายของ พลเรือโท พิจิตต ศรีรุ่งเรือง ผอ.ศรชล.ภาค 2 ที่ ได้สั่งการให้หน่วยต่างๆ ใน ศรชล.ภาค 2 หมั่นตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัยของเรือโดยสารและเรือท่องเที่ยวในห้วงก่อนเทศกาลวันหยุด และในช่วงที่มีอากาศและคลื่นลมทะเลแปรปรวน เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว และลดการเกิดอุบัติเหตุทางน้ำ ซึ่งผลการปฎิบัติไม่พบการกระทำผิดระเบียบตามที่กฎหมายกำหนดต่อไป

////////