ข่าวทั่วไทยสังคม

นายอำเภอท่าฉางปฎิบัติราชการร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่

นายอำเภอท่าฉางปฎิบัติราชการร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่

นายอำเภอท่าฉางปฎิบัติราชการร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่

เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2567 เวลา 09.00 . นายสุกิจ มีพริ้ง นายอำเภอท่าฉาง พร้อมด้วย ปลัดอำเภอ หัวหน้าส่วนราชการ หัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ผู้อำนวยการสถานศึกษา ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ ให้การต้อนรับคณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกคัดสรรกิจกรรมพัฒนาชุมชนดีเด่น และคณะอนุกรรมการพิจารณาคัดสรรกิจกรรมพัฒนาชุมชนดีเด่น ประจำปี 2567 ศาลาหมู่บ้าน บ้านคลองวัว หมู่ที่ 4 ตำบลท่าเคย อำเภอท่าฉางจังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งอำเภอท่าฉางได้เข้าร่วมคัดเลือกกิจกรรมพัฒนาชุมชนดีเด่นระดับอำเภอ สำหรับการเข้ารับการคัดสรรระดับจังหวัด จำนวน 2 ประเภท ได้แก่

        1.หมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง อยู่เย็น เป็นสุขได้แก่ บ้านคลองวัว หมู่ที่ 4 ตำบลท่าเคย

        2.ผู้นำอาสาพัฒนาชุมชน (ผู้นำ อช.) ชายและหญิง ได้แก่ นายพันศักดิ์ กรตเรี่ยม (อช. ชาย) และ นางสาวสนธยา นุ้ยภักดี (อช.หญิง)    

        

 

และเวลา 14.30 . นายสุกิจ มีพริ้ง นายอำเภอท่าฉาง พร้อมด้วย ปลัดอำเภอ หัวหน้าส่วนราชการ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลคลองไทร พัฒนากร กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ และประชาชนในพื้นที่ หมู่ที่ 4 ตำบลคลองไทร ร่วมกันขับเคลื่อนกิจกรรมถนนกินได้ ถวายในหลวงและกิจกรรม บ้านนี้มีรักปลูกผักกินเอง ทางนี้มีผลผู้คนรักกัน ศาลาประชุมหมู่บ้านบ้านท่าน้ำแห้ง และถนนสายท่าน้ำแห้งคลองหอ หมู่ที่ 4 ตำบลคลองไทร อำเภอท่าฉางจังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 และเพื่อสร้างความมั่นคงด้านอาหาร สร้างรายได้ ประหยัดรายจ่าย พัฒนาคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน เพื่อเป้าหมาย พัฒนาคน พัฒนาหมู่บ้าน พัฒนาตำบล ตามโครงการหมู่บ้านยั่งยืน(Sustainable Village) พร้อมทั้งขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Development Goals : SDGs) ด้วยการน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ สร้างการรับรู้ สร้างกระแสให้คนในชุมชนเห็นความสำคัญของการสร้างความมั่นคงทางอาหาร สร้างความต่อเนื่องให้ชาวบ้าน คนในชุมชนมีความรัก ความสามัคคี  มีการแบ่งปัน  และขอให้ทางทีมผู้นำ ช่วยกันดูแลรักษาผักที่ได้ปลูก ช่วยขยายผลโดยรณรงค์ให้ครัวเรือน ปลูกพืชผัก สมุนไพร ให้ได้ 30 ชนิดทุกครัวเรือน  อันจะทำให้คนในชุมชนมีแหล่งอาหารที่ปลอดภัยให้กับคนในชุมชนอันจะนำไปสู่เป้าหมายการสร้างความยั่งยืน ในทุกมิติ ทั้งสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อมต่อไป

        

////////

Related Articles

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button