สุดปลื้มนักวิ่งผู้พิการทางสายตาชาวสุราษฎร์ฯ ได้เหรียญทองแดง World Para Athletics พร้อมคว้าตั๋วไปแข่งขันระยะ 100 และ 400 เมตร พาราลิมปิก 2024 ที่ประเทศฝรั่งเศส
สุดปลื้มนักวิ่งผู้พิการทางสายตาชาวสุราษฎร์ฯ ได้เหรียญทองแดง World Para Athletics พร้อมคว้าตั๋วไปแข่งขันระยะ 100 และ 400 เมตร พาราลิมปิก 2024 ที่ประเทศฝรั่งเศส
สุดปลื้มนักวิ่งผู้พิการทางสายตาชาวสุราษฎร์ฯ ได้เหรียญทองแดง World Para Athletics พร้อมคว้าตั๋วไปแข่งขันระยะ 100 และ 400 เมตร พาราลิมปิก 2024 ที่ประเทศฝรั่งเศส
นายจักรินทร์ ดำมุณี อายุ 23 ปี นักกรีฑา ผู้พิการทางสายตาระดับ T13 ร่วมถ่ายรูปกับผู้มีอุปการะคุณ พร้อมตุ๊กตามอบมาสคอต ให้กับชาวสุราษฎร์ธานีที่ร่วมสนับสนุนจนประสบความสำเร็จในระดับโลก หลังคว้าเหรียญทองแดงวิ่ง 100 เมตร ด้วยสถิติ 10.86 วินาที ซึ่งทำลายสถิติเอเชีย ในรายการ World Para Athletics ที่ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 15 ก.ค.66 ที่ผ่านมา พร้อมคว้าตั๋วไปแข่งขันพาราลิมปิก 2024 ที่ประเทศฝรั่งเศส ในประเภท 100 เมตร และ 400 เมตร ผู้พิการทางสายตา T13 ซึ่งในวันนี้ก็สร้างความสุขให้ทั้งนายจักรินทร์ และชาวสุราษฎร์ธานี และทีมผู้สนับสนุนที่ได้ร่วมสานฝันให้เด็กนักวิ่งคนนี้
นายดาราศักดิ์ ขรัวทองเขียว หรือครูเบส โรงเรียนเวียงสระ ซึ่งเป็นโค้ชคนแรกของนายจักรินทร์ กล่าวว่า ต้องขอบคุณผู้สนับสนุนทุกคน ที่ช่วยส่งเด็กคนนี้ตั้งแต่อายุ 16 ปี และให้ตนช่วยฝึกสอนในการวิ่งซึ่งตอนนั้นตนสอนอยู่ที่โรงเรียนพระแสงวิทยา ก็เห็นแววของเด็กจึงรับฝึกสอนร่วมกับเพื่อนนักวิ่งในรุ่นนั้นประมาณ 10 คน ในระยะเวลา 3 ปี ก็สร้างนายจักรินทร์ติดทีมเยาวชนสุราษฎร์ธานีได้คว้าเหรียญทองใน 4×400 กีฬาแห่งชาติจังหวัดน่าน ร่วมกับกลุ่มนักกีฬาที่มีสายตาปกติ หลังจากเรียนจบชั้น ม.6 ก็ไปศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งประเทศไทย วิทยาเขตตรัง และพบกับโค้ช ที่ช่วยพลักดันจนเป็นนักกีฬาทีมชาติผู้พิการทางสายตา T13 ในที่สุด
นายจักรรินทร์ ดำมุณี อายุ 23 ปี ปัจจุบัน ศึกษาในระดับ ป.โท มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตกระบี่ เล่าว่า มีปัญหาด้านสายตามาตั้งแต่เด็ก แต่ก็ไม่ได้บอกใคร และชอบเล่นกีฬามาตั้งแต่เด็กๆ จนมาเจอผู้มีอุปการะคุณชาวดอนสัก ซึ่งอยู่ใกล้บ้านของตัวเองหลายท่าน ได้ช่วยกันพลักดัน และสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการเล่นกีฬาและเรียนหนังสือมาตลอด จนวันนี้ได้ไปแข่งขันในระดับโลก ก็อยากกลับมาขอบคุณทุกคนที่ช่วยเหลือ
ส่วนจุดพลิกผัน ทำให้มาวิ่งในกลุ่มพารา เริ่มต้นที่ตรัง เมื่อโค้ชที่ฝึกสอนได้ส่งไปเป็นไกด์รันเนอร์ นำนักวิ่งพิการทางสายตา T11 และครั้งนั้นทางสมาคมก็เห็นว่าตนมีปัญหาทางสายตา จึงนำไปตรวจสอบ และเข้าข่ายพิการทางสายตา T13 จึงนำตัวเข้าติดทีมชาติและไปวิ่งในระดับเอเชียตั้งแต่ปี 2565 และได้เหรียญทองมาแล้ว 4 เหรียญ จนล่าสุดได้เหรียญทองแดงในระดับโลกในครั้งนี้ และยังได้ตั๋วไปแข่งพาราลิมปิก 2024 ปีหน้า ซึ่งถือเป็นการประสบความสำเร็จ ในเส้นทางของนักวิ่งเป็นอย่างดี จากแรงสนับสนุนที่มาร่วมแสดงความยินดีในวันนี้
////
