แม่โพสต์แจงกรณีเกิดกระแสดราม่าในโลกโซเชียลถ่ายคลิปลงติ๊กต๊อกเด็กเต้นสนุกสนานแค่พาลูกไปกินข้าวในร้านอาหารไม่ได้พาไปเที่ยวจนดึก
แม่โพสต์แจงกรณีเกิดกระแสดราม่าในโลกโซเชียลถ่ายคลิปลงติ๊กต๊อกเด็กเต้นสนุกสนานแค่พาลูกไปกินข้าวในร้านอาหารไม่ได้พาไปเที่ยวจนดึก
แม่โพสต์แจงกรณีเกิดกระแสดราม่าในโลกโซเชียลถ่ายคลิปลงติ๊กต๊อกเด็กเต้นสนุกสนานแค่พาลูกไปกินข้าวในร้านอาหารไม่ได้พาไปเที่ยวจนดึก
กรณีที่เมื่อวันที่7 ต.ค.65 ได้ปรากฎภาพและคลิปผ่านสื่อออนไลน์และสื่ออื่นๆกรณีที่แม่พาลูกชาย1 คนและลูกสาว1 คน อายุประมา4-6 ปีเข้าไปในสถานประกอบการร้านอาหารที่คล้ายกับสถานบริการจนชาวโซเชียลให้ความสนใจได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นต่างวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสมหรือไม่นั้นและทางเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบในสถานที่ดังกล่าวในช่วงคืนที่ผ่านมาแล้วนั้น
ล่าสุดด้านพ.ต.อ.นิพลชาตรีผกก.สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี กล่าวว่าจากการตรวจสอบเบื้องต้นสถานที่ดังกล่าวเชื่อว่าเป็นร้านอาหารชมจันทร์วาไรตี้บาร์แอนด์เรสเตอรองตั้งอยู่ที่ม.1 ต.บางกุ้งอ.เมืองจ.สุราษฎร์ธานีซึ่งสภ.เมืองสุราษฎร์ธานีได้รายงานเหตุน่าสนใจดังกล่าวให้ผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นทราบแล้ว,ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นโดยมอบหมายให้พ.ต.ท.ยศ ชาวเรา รองผกก.สส.สภ.เมืองสุราษฎร์ธานีตรวจสอบข้อเท็จจริงให้เสร็จส้ินภายใน3 วัน
โดยมีประเด็นในการตรวจสอบ
1.สถานที่เกิดเหตุ,วันเวลาเกิดเหตุที่แน่นอน
2.ซักถามปากคำผู้เกี่ยวข้องทั้งแม่ของเด็ก,เจ้าของร้าน,และพนักงานตของร้านถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
3.ตรวจสอบข้อมูลที่ปรากฎผ่านสื่อออนไลน์ต่างๆเพื่อทราบข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
4.ตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในร้านหากพบว่าเป็นความผิดตามกฎหมายใดจะได้เร่งดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องต่อไป
ล่าสุดจากการตรวจสอบไปยังเจ้าของtiktok รายดังกล่าวพบว่าได้ลบคลิปวีดีโอดังกล่าวออกแล้วและเจ้าตัวได้โพสต์ชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นโดยมีข้อความว่า
“จะมาชี้แจงกับเรื่องที่เป็นข่าวน่ะค่ะไม่ได้จะมาแก้ตัวแต่อย่างใดเรามีพยานและหลักฐานทุกอย่างว่าเราสอบถาม
เกี่ยวกับร้านมาแล้วในวันที่เกิดเหตุคือวันที่24 เป็นวันกินเลี้ยงน้องสาวพอออกไป2ทุ่มครึ่งแล้วไปถ่ายรุปไรเสร็จก็จะ
เข้าไปในร้านก่อนจะเข้าไปก็สอบถามไปทางร้านแล้วว่าเข้าได้ไหมเพราะทางเราเองก็คิดไว้อยู่แล้วว่ารีบไปรีบกับ
เลยไม่กล้าทิ้งลูกสาวไว้ในห้องคนเดียวเค้าชนกะว่าจะอยู่แปบเดียวทางกาดหน้าร้านก็บอกว่าเข้าได้แต่ห้ามเกินเวลาที่ทางร้านแจ้งพอเข้าไปก็สั่งอาหารให้ลูกทานเสร็จเพลงขึ้นลูกสาวก็
ขอเต้นเพราะเค้าชอบเต้นลงติ้กต๊อกมากก็ถ่ายคลิปเก็บไว้โดยที่ไม่คิดอะไรเอาจริงทางร้านเขาเข้มมากน่ะพอก่อนจะถึงเวลาก็พาลูกสาวออกมานอนรอที่รถกับพ่อเค้าพอกับก็ลงคลิปลูกลงรูปปกติเพราะเห็นว่าลูกเต้นเก่งน่ารักดีไม่คิดว่าจะเป็นประเด็นนี้ก็เข้าใจว่าสังคมมี2ด้านถ้าเลือกได้ก็ไม่พาลูกไปหรอกเพราะพาไปก็เที่ยวไม่เต็มที่ให้ทิ้งลูกไว้
กับคนอื่นก็ไม่มีได้อีกเพราะไม่มีใครอยู่ที่นี้เลยวันนั้นคือจำเป็นจริงๆแล้วก็เลยพาไปด้วยไม่คิดว่าจะเป็นข่าวดังขนาด
นี้ทุกคนมุมมองไม่เหมือนกันอะเข้าใจแต่คุยด้วยความเป็นจริงน่ะค่ะไม่มีใครอยากพาลูกไปเที่ยวด้วยหรอกค่ะอยาก
ให้เค้าเรียนรู้ที่จะเอาตัวรอดก็จริงแต่ไม่คิดจะอยากพาไปเลยเพราะพาไปก็เที่ยวไม่สนุกไม่เต็มที่จะทำอะไรก็รำบากต้องมานั้งหวังเหวิดลูกอีกหวังว่าบางคนคงจะเข้าใจไม่ได้ออกมาพูดว่ารู้เท่าไม่ถึงการณ์น่ะค่ะรู้แต่เลือกที่จะพาไป
เพราะถ้าลูกเป็นอะไรขึ้นมาก็ไม่มีใครมารับผิดชอบลูกเราได้อยู่ดี
#อย่าดาม่า“
ทั้งนี้สภ.เมืองสุราษฎร์ธานีได้ประชาสัมพันธ์แนวทางการดำเนินการในเรื่องนี้ให้ประชาชนทั่วไปทราบผ่านสื่อโซเชียลมีเดียของหน่วยงานและสื่อมวลชนต่างๆได้รับทราบถึงของเท็จจริงในกรณีดังกล่าวที่เกิดขึ้น
//////
