เจ้าของร้านเพชรเตือนภัยหลังใช้ผลิตภัณฑ์ไม่มีอย. “น้ำมันหอมระเหย” อ้างสรรพคุณยารักษาสารพัดโรคจากประเทศอเมริกาจนมีอาการแพ้อย่างรุนแรงเจ็บปวดทรมานและระบบร่างกายชำรุดหลายส่วน

เจ้าของร้านเพชรเตือนภัยหลังใช้ผลิตภัณฑ์ไม่มีอย. “น้ำมันหอมระเหย” อ้างสรรพคุณยารักษาสารพัดโรคจากประเทศอเมริกาจนมีอาการแพ้อย่างรุนแรงเจ็บปวดทรมานและระบบร่างกายชำรุดหลายส่วน

น.ส.วัศยาภรณ์ เตชินีไชยพศ เจ้าของร้านเพชรวัสยา อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี นำเอกสารแจ้งความพร้อมหลักฐานการรักษาโรคหลังใช้ผลิตภัณฑ์น้ำมันหอมระเหยกว่า20 ชนิดจากคำชักชวนจากตัวแทนจำหน่ายของบริษัทที่มีเอกสารประกอบคู่มือการใช้อย่างน่าเชื่อถือพร้อมอ้างว่าสามารถใช้เป็นยารักษาโรคต่างๆได้ด้วยการหยดใต้ลิ้นรับประทานในรูปแบบแคปซูนผสมน้ำดื่มและการสูดดมบำบัดร่างกายเพื่อป้องกันโรงต่างๆแต่สุดท้ายเกิดอาการแพ้อย่างรุนแรงและส่งผลถึงระบบภายในร่างกายของตัวเองจนเกือบเสียชีวิตรวมถึงครอบครัวและเพื่อนๆที่พบว่าระบบภายในร่างกายได้รับผลกระทบเช่นกัน

น.ส.วัศยาภรณ์  เปิดเผยว่า ตนเองได้ซื้อผลิตภัณฑ์น้ำมันหอมระเหยยี่ห้อหนึ่งที่ตัวแทนที่เป็นคนรู้จักสนิทกันอ้างว่าเป็นของประเทศอเมริกาซึ่งทางตัวแทนที่มาขายบอกว่าเป็นสารสกัดมาจากดอกไม้และจากพืชสามารถใช้รักษาโรคต่างๆได้และป้องกันโควิด19 ได้จึงได้เริ่มใช้กันทั้งครอบครัวรวมทั้งหมด4 คนคือตนเองสามีและลูกชายอีก2 คนวัย21 ปีและ13 ปี  และเพื่อนๆตั้งแต่ประมาณเดือนเมษายนจึงถึงเดือนกรกฎาคม65 ต้องหยุดใช้เพราะเริ่มมีอาการแพ้อย่างรุนแรง

โดยเริ่มจากมีอาการผื่นขึ้นทั่งร่างกายและมีอาการปวดแสบปวดร้อนทั้งตัวจึงได้รีบไปหาหมอในตอนแรกก็คิดว่าอาจจะเป็นเพราะอาการแพ้อาหารซึ่งตนเองก็ไม่เคยแพ้มาก่อนเพราะจะเป็นคนไม่ทานอาหารนอกบ้านและจะทำอาหารให้ครอบครัวรับประทานเองมาโดยตลอดและหลังจากพบหมอและตรวจเลือดปรากฎว่ายังมีอาการเจ็บป่วยภายในหลายอย่างเช่นระบบการทำงานของหัวใจหัวใจห้องล่างซ้ายบีบตัวลดลงอาการกะตุกที่แก้มขวาและมีอาการปวดหนักหัวและตัวเกรงบางครั้งจากระบบประสาทอักเสบและตัวซีดจากการผิดปกติของระบบเลือดทำประจำเดือนมามากกว่าปกติเพราะทานน้ำมันหอยระเหยตัวหนึ่งที่มีสรรพคุณในการบำรุงเลือด  ปวดท้องมากและเมื่อตรวจพบเนื้องอกที่ไม่ใช้เนื้อร้ายในมดลูกเพราะน้ำมันหอมระเหยสามารถไปกระตุ้นให้เกิดเนื้องอกได้และกระเพาะปัสสาวะอักเสบอีกทั้งการสูดดมน้ำมันหอยระเหยทำให้เกิดแผลอักเสบในจมูกอีกด้วย

สำหรับคนในครอบครัวที่ใช้ผลิตภัณฑ์ร่วมกันพบว่าสามีตรวจพบตับอักเสบลูกชายคนโตอายุ21 ปีที่ช่วยขายเพชรที่ร้านไม่ดื่มเหล้าไม่สูบบุหรี่ตรวจพบตับอักเสบและลำไส้อักเสบส่วนลูกชายตนเล็กอายุ13 ปีพบการทำงานของไตลดลงและตัวซีดขณะที่ตนพบผลกระทบเยอะสุดเพราะรับประทานมากกว่าคนอื่นในครอบครัวของลูกส่วนใหญ่ก็จะใช้หยดใต้ลิ้นกรณีรู้สึกว่ามีความเสี่ยงโควิดจึงใช้เพื่อป้องกันการติดโควิด

จึงได้นำน้ำมันหอมระเหยไปให้หมอและผู้เชี่ยวชาญทางสาธารณสุขตรวจสอบและเข้าร้องเรียนกับสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคซึ่งผลิตภัณฑ์ดังกล่าวก็ไม่มีอย. โดยหมอที่ให้คำปรึกษาไม่แนะนำให้รับประทานและไม่มีการรับรองให้ใช้  เพราะข้างขวดระบุแค่ว่าเป็นน้ำมันหอมระเหยเท่านั้นและในประเทศไทยยังไม่มีหน่วยงานไหนมารับรองหรือรองรับผลิตภัณฑ์ตัวดังกล่าวเลยเมื่อได้แจ้งไปทางบริษัทว่าเกิดผลกระทบทางบริษัทก็ไปจดอย. แต่จดได้แค่3-4 ชนิดเท่านั้นและจดได้แค่น้ำมันหอมระเหยปรับอากาศเพียงเท่านั้นและบริษัทปัดความรับผิดชอบในเรื่องผลกระทบของร่างกายจะรับคืนผลิตภัณฑ์เท่านั้น

นอกจากนั้นยังพบว่าตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ดังกล่าวยังได้นำภาพของตนเองไปโพสต์บนเฟซบุ๊กในลักษณะอวดพรรคุณอ้างว่าตนเองใช้นำ้มันของเขา2 หยดหายจากอาการไมเกรนใน2 นาทีเพื่อโฆษณาผลิตภัณฑ์ของตัวเองแต่เมื่อทราบว่าตนเองแพ้น้ำมันหอมระเหยก็ได้บล็อกเพซบุ๊กของตนทันที

ตอนนี้รู้สึกทุกข์ใจในเรื่องระบบร่างกายที่เปลี่ยนแปลงไปและบริษัทและตัวแทนปัดความรับผิดชอบในเรื่องผลข้างเคียงต่อสุขภาพของตนจึงได้ปรึกษากับทางทนายความพร้อมรวบรวมพยานหลักฐานที่มีของตนเองครอบครัวและเพื่อนอีก2 คนที่ใช้และแพ้ด้วยเข้าแจ้งความเพื่อให้ดำเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุด

ซึ่งตอนนี้ยังพบว่ามีการตั้งกลุ่มไลน์ที่มีสมาชิกถึง5 พันคนและยังทำตลาดผลิตภัณฑ์ตัวนี้อยู่จึงต้องออกมาเตือนภัยเกรงว่าคนอื่นที่ใช้อาจก่อเกิดความเสียหายในด้านสุขภาพเหมือนตนเองสำหรับการดูแลสุขภาพควรดูแลอย่างถูกวิธีศึกษาข้อมูลให้ละเอียดปรึกษาแพทย์อย่างละเอียดรอบคอบอย่าแค่ไว้ใจกับคนกันเองเพราะอาจตกเป็นเหยื่อเหมือนกับตนเอง

/////