ชาวบ้านเดินทางเข้ายื่นหนังสือร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมเรื่องที่ดินทำกินต่อประธาน ป.ป.ช. สภาผู้แทนราษฎร
ชาวบ้านเดินทางเข้ายื่นหนังสือร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมเรื่องที่ดินทำกินต่อประธาน ป.ป.ช. สภาผู้แทนราษฎร

ชาวบ้านเดินทางเข้ายื่นหนังสือร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมเรื่องที่ดินทำกินต่อประธาน ป.ป.ช. สภาผู้แทนราษฎร
เมื่อวันที่23 ก.ย.65 ที่ศูนย์ประสานงาน“พรรคเสรีรวมไทย” ต.ท่าชัก อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทยในฐานะประธานป.ป.ช.สภาผู้แทนราษฎร พร้อมคณะเดินทางร่วมงานประเพณีงานบุญเดือนสิบในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชพร้อมเปิดศูนย์ประสานงาน“พรรคเสรีรวมไทย” และรับหนังสือของความเป็นธรรมจากนายนิลรัตน์ ถิ่นเทพา ชาวบ้านต.ท่าชี อ.บ้านาสาร จ.สุราษฏร์ธานี เพื่อขอให้ตรวจสอบเกี่ยวกับเรื่องที่ดินทำกินราชพัสดุ
นายนิลรัตน์ กล่าวว่า วันนี้ได้เข้ายื่อหนังสือต่อท่านประธานป.ป.ช.สภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอให้ตรวจสอบกรณีสำนักงานธนารักษ์พื้นที่สุราษฎร์ธานีนำที่ดินราชพัสดุที่บรรพบุรุษและครอบครัวของตนเองได้เข้าไปครอบครองมาเป็นเวลาตั้งแต่บรรพบุรุษจนมาถึงยุคสมัยของตนเองในฐานะทายาทลูกหลานของผู้เข้าครอบครองมาระยะเวลาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและในพื้นที่แปลงดังกล่าวตนเองได้เข้าครอบครองอย่างเกษตรกรวิญญูชนทั่วไปในละแวกนั้นและได้ปลูกพืชปาล์มน้ำมันเป็นที่เรียบร้อยตนเองได้เก็บเกี่ยวผลผลิตปาล์มน้ำมันเพื่อเลี้ยงดูครอบครัวมาโดยตลอดและต่อมาบุตรสาวน.ส.วรัญญา ถิ่นเทพา ได้มีครอบครัว ตนเองจึงได้ยกพื้นที่ในส่วนดังกล่าวให้ครอบครัวของบุตรสาวเพื่อได้ประกอบอาชีพเกษตรกรต่อไปซึ่งอยู่อย่างปกติสุขตลอดมาและก็ได้ไปยื่นเรื่องขอเช่าจากธนารักษ์พื้นที่เพื่อปฏิบัติให้ถูกต้องตามระเบียบราชการของกรมธนารักษ์ก่อนหน้านี้และที่ผ่านมาสำนักงานธนารักษ์พื้นที่สุราษฎร์ธานี ได้ออกสำรวจตรวจสอบพื้นที่และได้มีการฟ้องคดีกับตนเองผลการฟ้องคดีต่อมาตนเองทราบคำพิพากษาศาลโดยให้ตนเองและครอบครัวรื้อถอนผลอาสินและออกจากแปลงดังกล่าวตรงนี้เป็นการสร้างความเดือดร้อนให้กับตนเองและครอบครัว
โดยผู้อ้างสิทธิจากการซื้อมาว่าที่ดินที่ตนเองครอบครองอยู่นั้นทับซ้อนกับที่ดินที่มีบุคคลอื่นซื้อมากว่า3 ร้อยไร่ทั้งๆที่ไม่เป็นความจริงตนเองเป็นผู้ยากไร้บรรพบุรุษได้เข้าไปครอบครองพื้นที่แปลงดังกล่าวจนตกทอดมาถึงตนเองและตนเองก็ได้ยกที่ดินจากการครอบครองให้ทายาทซึ่งต่อมาที่ดินที่ตนเองเข้าครอบครองสำนักงานธนารักษ์พื้นที่ได้ฟ้องคดีว่าตนเองเป็นผู้บุกรุกเข้าครอบครองทับซ้อนกับที่ดินของบุคคลที่ซื้อเอาไว้ ตนเองจึงฟ้องขับไล่และให้ตนเองและครอบครัวออกจากการประกอบอาชีพเพื่อนำที่ดินส่วนดังกล่าวคืนให้กับนายทุนและที่สำคัญกระบวนการของการฟ้องคดีจนผลของคดีออกมาเรียบร้อยตนเองผู้ถูกฟ้องคดีไม่ได้รับทราบรายละเอียดของการสืบสวนหาข้อเท็จจริง ตนเองมารับทราบคำสั่งศาลหลังจากศาลพิพากษามาแล้วจนเลยเวลาที่สามารถยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลได้ดังนั้นวันนี้ตนเองผู้ถูกฟ้องคดีจึงเดินทางมายื่นหนังสือร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมต่อผู้แทนราษฎรในฐานะประธานป.ป.ช. สภาผู้แทนราษฎรและยืนยันว่าตนเองไม่ได้ขัดคำสั่งศาลและพร้อมปฏิบัติหากคำพิพากษาศาลเป็นไปตามความเป็นจริงและแม้แต่กระบวนการการดำเนินการตนเองยังไม่ทราบกระบวนการวันเวลาตามคำสั่งศาลเพราะผู้ฟ้องคดีได้นำเรื่องดังกล่าวรับรู้เพียงฝ่ายเดียวและนำเรื่องดังกล่าวแจ้งให้ตนเองทราบก็เลยเวลามามากพอสมควรจนทำให้เห็นได้ว่าข้าตนเองไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาลหรือตนเองไม่ยื่นอุทธรณ์คำสั่งฯ
/////